วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

 ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ร่วมส่งเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ คลิกที่นี่ บทความของท่านมีประโยชน์กับผู้ไม่รู้อีกมากมาย
ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
วิทยาการ (Knowledge)
      คือ ความรู้ที่สั่งสมสืบทอดมาของมนุษย์ โดยจัดระบบและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาการ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี      วิทยาการครอบคลุมวิทยาศาสตร์ เป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่เริ่มขึ้นในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ วิทยาการก่อให้เกิดระเบียบทางวิทยาศาสตร์ อันได้แก่ การสังเกต การวิเคราะห์เพื่อกำหนดสมมติฐาน และทดสอบความถูกต้อง

วิทยาการก่อให้เกิดเทคโนโลยี       วิทยาศาสตร์ ถูกนำมาประยุกต์เพื่อประดิษฐกรรมสำคัญทางเทคโนโลยี เช่น การนำความรู้เรื่องแม่เหล็กไฟฟ้า ค.ศ. 1820 มาประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า
ปัจจุบัน เทคโนโลยีสำคัญที่เป็นแรงผลักดันความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม ได้แก่
1. พลังงาน มีการพัฒนาด้านพลังงานจากการเริ่มต้นใช้ไฟ สู่การประดิษฐเครื่องจักรไอน้ำ   และพลังงานไฟฟ้า และนิวเคลียร์ นอกจากนี้มีการพยายามหาแหล่งพลังงานอื่น เช่น ความร้อนใต้พิภพ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากคลื่นทะเลและมหาสมุทร เป็นต้น
2. ระบบการคมนาคมขนส่ง มีปัจจัยดังนี้
    2.1 มีหลายรูปแบบเพื่อความสะดวกใช้งาน
    2.2 ความรวดเร็วในการคมนาคม
    2.3 เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งผู้โดยสาร สินค้า
    2.4 พัฒนาการขนส่งเพื่อสำรวจอวกาศ
3. ระบบสื่อสาร คือระบบที่ใช้ส่ง ขนถ่ายข้อมูลข่าวสาร จากผู้ส่งสาร ไปยังผู้รับสาร ได้อย่างรวดเร็ว เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพ
4. ระบบคำนวณ มีการใช้คอมพิวเตอร์มาใช้งาน โดยใช้ IC (Intergrated Circuit) ประมวลผลสัญญาณอิเล็กทรอนิคส์
5. ระบบการผลิต
6. ทางการแพทย์ การใช้อวัยวะเทียม การวินิจฉัยโรค การพัฒนายาใหม่
ที่มาของเทคโนโลยี1. คิดและสร้างด้วยความรู้ของตนเอง
2. รับถ่ายทอดจากชุมชน บรรพบุรุษ
3. รับจากสังคมอื่น
ระดับความยากง่ายของเทคโนโลยี1. เทคโนโลยีระดับต่ำ เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน สามารถเข้าใจและปฏิบัติตามได้
2. เทคโนโลยีระดับกลาง เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ผู้รับการถ่ายทอดควรมีความรู้อยู่บ้าง
3. เทคโนโลยีระดับสูง ใช้อุปกรณ์ซับซ้อน ผู้รับการถ่ายทอดควรมีพื้นฐานความรู้ด้านวืทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
4. เทคโนโลยีก้าวหน้า เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานอัตโนมัติ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจและควบคุมอย่างดี
5. เทคโนโลยีอนาคต เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในขั้นทดลอง ศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุง ผู้ใช้ต้องเป็นผู้สร้างหรือมีส่วนในการสร้าง
สาเหตุของปัญหาการใช้วิทยาการและเทคโนโลยี 1. เป็นผลมาจากลักษณะของวิทยาการและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป และผลจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ก่อให้เกิดผลกระทบ อย่างกว้างขวาง
2. ปัญหาในการใช้วิทยาการและเทคโนโลยี การละเลยการประเมินผลกระทบต่อการประยุกต์ใช้วิทยาการและเทคโนโลยี และการควบคุมในด้านความปลอดภัย
ปัญหาจากการใช้วิทยาการและเทคโนโลยี1. สิ่งแวดล้อมถูกทำลายเพราะใช้อย่างขาดความรู้ ความเข้าใจ
2. อันตรายจากการประยุกต์ใช้ทางการเมือง
3. ปัญหาสังคม เช่น การผสมเทียม
4. ปัญหาต่อการพัฒนาประเทศ
        ผลกระทบของการใช้วิทยาและเทคโนโลยี
 ผลดีผลเสีย
ด้านเกษตรกรรมเพิ่มผลผลิต ปริมาณและคุณภาพ ผ่อนแรงมนุษย์ เกิดการค้นคว้าใหม่ ๆเกิดการตกค้างของสารเคมี ความเสื่อมสภาพของดิน
ด้านอุตสาหกรรมเพิ่มปริมาณและผลผลิต ลดต้นทุน ได้กรรมวิธีการผลิตแบบใหม่ได้ผลผลิตที่ไม่ค่อยตอบสนองความต้องการของปัจเจกบุคคล เกิดการว่างงาน  การแข่งขัน แย่งชิงตลาด มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม

วิทยาการและเทคโนโลยีในประเทศไทย
      ประเทศไทยยังถูกจัดได้ว่ารับวิทยาการและเทคโนโลยีมาจากประเทศอื่น มากกว่า การสร้างขึ้นเอง ไทยเรามีการส่งออกทางผลิตผลทางการเกษตรมากกว่า สินค้าที่ต้องสั่งซื้อคือ ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์
      ประเทศไทยใช้วิทยาการและเทคโนโลยีเพื่อการเมือง สังคมเศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม วิทยาการและเทคโนโลยีเหล่านี้ ก่อให้เกิดผลเสียในด้านการเมือง   ผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่นกันแนวโน้มทางเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 1967 เป็นต้นมา มีการตื่นตัวทางเทคโนโลยี 5 สาขา ดังนี้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เทคโนโลยีชีวภาพ
3. เทคโนโลยีวัสดุภัณฑ์สมัยใหม่
4. เทคโนโลยีด้านพลังงาน
5. เทคโนโลยีด้านอวกาศ
ความขัดแย้งและการประสานประโยชน์ระหว่างประเทศ
1. ปัญหาตะวันออกกลาง 
    ดินแดนตะวันออกกลาง ได้แก่แถบประเทศ อิรัก ตุรกี อิหร่าน คูเวต ซาอุดิอาระเบีย ซีเรีย ไซปรัส จอร์แดน เลบานอน อิสราเอล สาธารณรัฐอาหรับ อียิปส์ ซูดาน เยเมนเหนือ เยเมนใต้ โอมาน รัฐต่าง ๆ รอบอ่าวเปอร์เซีย (อาณาจักรออตโตมันเติร์ก)   ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันของโลก เป็นเส้นทางเดินเรือผ่านคลองสุเอซ และเป็นแหล่งกำเนิด 3 ศาสนาสำคัญ (ยิวหรือยูดาย คริสต์ และอิสลาม) ทำให้เชื่อว่า พระผู้เป็นเจ้าของยิว มอบดินแดนปาเลสไตน์ให้ชาวยิว เรียกว่า ดินแดนแห่งสัญญา (Palestine or The Land)
    ในคัมภีร์ไบเบิล อับราฮัม ได้พาชาวยิวอพยพไปอยู่อียิปต์ เนื่องจากความแห้งแล้ง จนกระทั่งถึงถึงปี 2000 ก่อนคริสตกาล ได้อพยพกลับมา และตั้งเป็นอาณาจักรเมื่อ 1025 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรมันผู้ครอบครองดินแดน กวาดต้อนชาวยิวไปเป็นทาส ทั่วยุโรป
     ตอนต้นของคริสศตวรรษที่ 7 เกิดศาสนาอิสลามขึ้นและแพร่กระจายทั่วคาบสมุทรอาหรับ   มีการสร้างโบสถ์ Dome of the Roch ที่นครเยรูซาเลม พวกเติร์กเข้าครองดินแดนปาเลสไตน์และยอมรับศาสนาอิสลาม   ปี ค.ศ. 1095-1291 เกิดสงครามครูเสด ระหว่างชาวคริสต์และมุสลิม เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในนครเยรูซาเล็ม หลังจากนั้น ก็ถูกชาวตาด และมองโกล ยึดครอง ตามด้วยอียิปต์ เติร์ก และอังกฤษ
     ปลายคริสตวรรษที่ 19 ชาวยิวเริ่มอพยพเข้าสู่ดินแดนปาเลสไตน์เพิ่มขึ้น นายธีโอดอร์ เฮิร์ซส์ เศรษฐีชาวยิวออสเตรีย ได้ก่อตั้งองค์การไซออนนิสต์ (Zionism) จุดประสงค์เพื่อก่อตั้งประเทศยิว
     ช่วงสงครามโลกที่ 1 อังกฤษได้ขอร้องให้ยิวช่วยรบด้วย โดยแลกเปลี่ยนกับสิทธิการดูแลดินแดนปาเลสไตน์   ทำให้ชาวยิวอพยพเข้าไปมากขึ้น จนเกิดข้อพิพาทบาดหมางกับชาวอาหรับ   เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาได้ขอร้องอังกฤษให้ยิวมีประเทศของตน ส่งผลให้ฝ่ายอาหรับก่อตั้งองค์การสันนิบาตอาหรับขึ้นในปี ค.ศ. 1945 เพื่อต่อต้านยิว และปี ค.ศ. 1947 องค์การสหประชาชาติเสนอให้แบ่งดินแดนกัน ต่อมา นายเดวิด แบนกูเรียน ประกาศตั้งประเทศอิสราเอล   กองทัพอาหรับจึงโจมตียิวทันที เกิดสงคราม 4 ครั้งดังนี้
1.1ค.ศ. 1948 สาเหตุเนื่องจากยิวได้ก่อตั้งประเทศขึ้น อาหรับบุกก่อนแต่พ่ายแพ้ ไป
1.2
ค.ศ. 1956 สงครามวิกฤต์การณ์คลองสุเอซ ยิวเป็นฝ่ายโจมตีก่อน อังกฤษและฝรั่งเศสเข้าแทรกแซงเหตุการณ์นี้ก่อน แต่อเมริกาแสดงความไม่พอใจที่สองประเทศเข้าแทรกแซง ทำให้ทั้งสองต้องถอนตัวออกมา และทำให้ยิวยึดฉนวนกาซา และทะเลทรายไซนายได้ สงครามยุติลงเมื่อ สหประชาชาติเข้ารักษาความปลอดภัยในฉนวนกาซา   และยิวได้ใช้สิทธิในอ่าวอกาบา
1.3ค.ศ. 1967 สงคราม 6 วัน อียิปต์ ปิดอ่าวอกาบา เพื่อไม่ให้ยิวใช้ และเรียกร้องให้ สหประชาชาติถอนกำลังออก แต่อิสราเอลก็เป็นฝ่ายชนะอีก
1.4ค.ศ. 1973 อาหรับโจมตีก่อน และอเมริกาได้เข้ามาช่วยอิสราเอลรบ ส่วนรัสเซียเข้าช่วยฝ่ายอาหรับ แต่มีการเจรจา "การเจรจาที่แคมป์เดวิด" เพื่อยุติสงคราม
      ปี 1964 มีการก่อตั้งองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์(พี แอล โอ) เพื่อต่อต้านยิว และจัดตั้งรัฐอิสระสำหรับชาวอาหรับ โดยนายยัสเซอร์ อาราฟัด   ตอนแรกมีการใช้ความรุนแรง เช่น จี้เครื่องบิน ลักพาตัวนักการฑูต ต่อมา มีการแตกแยกเป็นกลุ่มย่อยมากมาย เช่นกลุ่มฟาตาร์ ที่มีการสังหารหมู่นักกีฬาโอลิมปิคชาวยิวที่ กรุงมิวนิค เยอรมัน ปัจจุบัน อิสราเอลและพี แอล โอได้เจรจายอมรับรัฐปาเลสไตน์อิสระของนาย อาราฟัด ในเขตยึดครองของอิสราเอล
      นอกจากนี้   ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ยังก่อให้เกิดวิกฤตการณ์หลายจุด เช่น 
    สงครามเลบานอน เลบานอนเป็นรัฐที่อยู่ระหว่าง ซีเรียและอิสราเอล ซึ่งเป็นศัตรูกัน ทำให้ได้รับผลกระทบกัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านเชื้อชาติและศาสนา   และการเข้าไปตั้งฐานปฏิบัติการขององค์การ พี แอล โอ และการแทรกแซงของต่างชาติ
    เลบานอนได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1943  มีประชากรประมาณ 3 ล้านคน ซึ่งเป็น คริสต์ 40% และ มุสลิม 12 นิกาย 60% แต่ได้รับสิทธิทางการเมืองน้อยกว่าคริสต์ มีประธานาธิบดีเป็นคริสตื แต่นายกรัฐมนตรีเป็นมุสลิม จึงเกิดความขัดแย้งกัน ปีค.ศ. 1975 เกิดสงครามกลางเมือง  องค์การ พี แอล โอ ได้เข้าแทรกแซงการเมืองของเลบานอน   ส่วนซีเรียได้กลียดชังอิสราเอลที่ยึดที่ราบสูงโกลานไป จึงสนับสนุนให้ พี แอล โอ ต่อสู้กับยิว
    ในเลบานอน กลุ่มมุสลิมซีอะห์ (มีประมาณ 1 ล้านคน) รวมตัวกันเรียกว่า ซีอะห์อามาล มีนายเบรี รัฐมนตรีกระทวงยุติธรรม เป็นผู้นำ   ขณะที่อิสราเอลบุกเลบานอน มุสลิมซีอะห์ได้ลักพาตัวชาวอเมริกาและยุโปร ระหว่างปี ค.ศ. 1982-1987 เมื่อพี แอล โอ ถูกขับออกไปแล้ว ชีอะห์ เข้าโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ ปี ค.ศ. 1987 และต่อสู้มุสลิมดรุซ ซึ่งมีนายวิลิด จุมบลัดเป็นผู้นำ ซีเรียเข้าปราบปรามตามคำขอของฝ่ายบริหารเลบานอนซี่งมีนายกรัฐมนตรีเปนมุสลิมซุนนี
ยังมีมุสลิมฮิซบาลา (อิซบาเลาะห์ -- พวกของพระเจ้า) ทำการจับกุมอเมริกาชุดล่าสุด 4 นาย จุดประสงค์ของกลุ่มฮิซบาลาคือต้องการเปลี่ยนเลบานอนให้เป็นรัฐอิสลามเช่นเดียวกับอิหร่าน แต่กลุ่มอื่นไม่ต้องการ
     พี แอล โอ พยายามสนับสนุนให้กลุ่มมุสลิมดรุซ ให้ก่อตั้งรัฐอิสระบนที่ราบสูงโกลาน

      สงครามอิรัก-อิหร่าน ปีค.ศ. 1980 ชาวอิหร่านหรือ ชาห์ โดยผู้นำศาสนานิกายซีอะห์ อยาดุลเลาะห์ โคไมนีเป็นผู้นำ ส่งผลให้พระเจ้าชาห์และพระราชวงศ์ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ   ชาวอิหร่าน 90% เป็นมุสลิมชีอะห์ ซึ่งนับถืออัลเลาะห์และอาลี (สาวกองค์ที่ 4 และบุตรเขยของท่านนบีมูฮัมหมัด)
     พระเจ้าชาห์ซึ่งลี้ภัยไปเม็กซิโก ได้เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งที่สหรัฐอเมริกา ขณะนั้น โคไมนี่ด้กวาดล้าง ต่อต้านอเมริกาและรัสเซีย กลุ่มคอมมิวนิสต์ ตัดความสัมพันธ์กับอียิปต์และอิสราเอล สนับสนุนกองโจรปาเลสไตน์
     การลี้ภัยนี้ ทำให้อิหร่านโกรธมาก และจับเจ้าหน้าที่สถานฑูตอเมริกาในกรุงเตหรานเป็นตัวประกันถึง 52 คน สหประชาชาติจึงลงโทษทางเศรษฐกิจ แต่ไร้ผล อเมริกาพยายามลดความตึงเครียดโดยส่งพระเจ้าชาห์ไปปานามา
     ขณะนั้นใกล้หมดวาระการเป็นประธานาธิบดีของนาย จิมมี่ คาร์เตอร์ เขาจึงต้องการเร่งรัดให้ปัญหาอิหร่านหมดไป เขาจึงตัดสินใจ   อพยพชาวอเมริกันออกจากอิหร่าน ส่งกองทัพเข้าสู่อ่าวเปอร์เซีย รัสเซียจึงส่งกองทัพเข้าสู่อ่าวเช่นกัน
     อิหร่านเผชิญปัญหาภายในจน ประธานาธิบดีบานีซาดร์ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ ปี 1980 พระเจ้าชาห์สิ้นพระชนม์ อิหร่านจึงเปลี่ยนเงื่อนไขเป็น เงินสด และทองคำ 24 พันล้านดอลลาร์ และมีการต่อรองเหลือ 5.5 พันล้านดอลลาร์   และชะลอการส่งคืนตัวประกัน จนถึงการสาบานตนของนายเรแกนประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา โดยมีการส่งคืนเมื่อ 20 มกราคม 1980 ระหว่างนี้ อิรักได้บุกยึดร่องน้ำซัทเอล อาหรับและแคว้นคูเชสถานของอิหร่าน   ทำให้เกิดสงครามอิรัก-อิหร่าน
      สงครามนี้ยุติลงในปี ค.ศ. 1988 และทำให้ราคาน้ำมันโลกลดลง เนื่องจากทั้งสองชาติต้องขายน้ำมันเพื่อนำเงินมาใช้ทำสงคราม
     ปัญหาสหรัฐอเมริกากับอิหร่านและกบฎคอนทรา มีข่าวลือว่า อเมริกาลักลอบขายอาวุธให้อิหร่าน เพื่อใช้ทำสงครามกับอิรัก และนำกำไรไปสู่กบฎคอนทรา ในประเทศนิการากัว จึงมีการสอบสวนขึ้น
     อเมริกากลาง พยายามต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ ปีค.ศ. 1959 นาย ฟีเดล คาสโตแห่งคิวบาโค่นล้มรัฐบาล และประกาศเป็นคอมมิวนิสต์ และรัสเซีย(ซึ่งเป็นคอมมิวนิสตื) ตั้งฐานทัพจรวดในคิวบา รัฐบาล (ฝ่ายขวา) แพ้ฝ่ายกบฎ จึงมีการจัดตั้งรัฐบาลแซนดินิสต้า จึงมีกลุ่มกบฎคอนทรา ซึ่งต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์
     มีการส่งเงินช่วยกบฎคอนทราหลายครั้ง นาวาโทโอลิเวอร์ นอร์ธ เจ้าหน้าที่ C.I.A ได้ส่งเงินโอนเข้าบัญชีกบฎคอนทราอย่างลับ ๆ และพยายามกันประธานาธิบดีเรแกนออกจากความผิดนี้ ทำให้ชาวอเมริกาไม่คิดเอาผิดต่อ นายเรแกน

     สถานการณ์อ่าวเปอร์เซีย   อ่าวเปอร์เซียเป็นที่ตั้งของประเทศอิรัก อิหร่าน คูเวต โอมาน บาร์เรน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย สาธารณรัฐเอมิเรตส์ มีการส่งออกน้ำมันถึง 1 ใน 5 ของโลก เมื่อปี ค.ศ. 1980 เกิดสงครามอิรัก-อิหร่านขึ้น ทั้งอเมริกาและรัสเซียได้เข้าแทรกแซงสงครามนี้

     ปัญหายิว-อาหรับ เดือนธันวาคม 1987 ทหารอิสราเอล ลงโทษชาวปาเลสไตน์ ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงได้ประณามการกระทำของอิสราเอล   โดยมีอเมริกาได้ลงนามด้วย
     8 ตุลาคม 1990 อิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ 21 คนที่เทมเปิลเมาท์ และไม่ยอมให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาไต่สวน และ 21 ตุลาคม 1990 ปาเลสไตน์ใช้มีดสังหารยิว 13 คน
     4 พฤษภาคม 1994 มีการตกลงระหว่างนายยิคซัค ราบิน และนายยัสเซอร์ อาราฟัด ให้ปาเลสไตน์ได้สิทธิปกครองตนเอง ในฉนวนกาซาและเมืองเจริโค
ปัญหาอิรัก - คูเวต 2 สิงหาคม 1990 กองทัพอิรักโดยนายซัดดัม ฮุสเซ็น บุกยึดคูเวต โดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ เช่น
1. อ้างว่าคูเวตเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมันในอดีต จึงควรกลับไปอยู่รวมกับอิรัก
2. อิรักกล่าวหาว่าคูเวตขายน้ำมันในราคาที่โอเปคไม่ยินยอม ทำให้อิรักต้องสูญเสียรายได้ของตน
3. อิรักหาว่าคูเวตขุดน้ำมันใต้ดินในแหล่งที่เป็นรอยต่อระหว่างอิรักและคูเวต
4. อิรักต้องการลบล้างหนี้ที่อิรักต้องชำระให้คูเวต 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กองกำลังสหประชาชาติ จึงประณาม และคว่ำบาตรอิรัก เมื่อ 6 สิงหาคม 1990  ทำให้อิรักถอนทหารจากคูเวต
2. ปัญหาการแบ่งกลุ่มทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก    สงครามเย็น (Cold War) แบ่งเป็น 4 ระยะคือ
    - ค.ศ. 1950 -  1949 เป็นช่วงที่โซเวียตนำลัทธิสังคมไปเผยแพร่
    - ค.ศ. 1950 - 1960 จีนนำระบบคอมมิวนิสต์ไปใช้    มีการสร้างกำแพงเบอร์ลินซึ่งแยกเยอรมันเป็นตะวันตกและตะวันออกอย่างเด็ดขาด
    - ค.ศ. 1960 - 1970 โซเวียตและจีนแยกจากกัน ด้วยปัจจัยหลายประกัน
    - ค.ศ. 1970 - ปัจจุบัน มีการอยู่อย่างสันติ เนื่องจากมีการเจรจาอาวุธ เรียกว่า Strategic Arms Limitation Talk หรือ SALT-1 และ SALT-2
    ปี 1991 เป็นปีแห่งการสิ้นสุดสงครามเย็น
การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ปี ค.ศ. 1987 นายมิคาเอล กอร์บาชอฟ เลขาธิการได้ประกาศนโยบายใหม่ 3 ประการเพื่อปฏิรูปประเทศ ได้แก่
กลาสนอสท์ (Glasnost --เปิด) คือ เปิดให้มีการถกเถียงการประชุมสภาคอมมิวนิสต์และอนุญาตให้สื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวได้
เปเรสตอยกา (Perestroika--ปรับ) ปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยให้กลไกราคามาควบคุม ลดบทบาทของรัฐลง
-เดโมครัตซิซัทชิยา (Demokratiyatsiya --ประชาธิปไตย) การปรับปรุงระบบอาวุโสพรรคคอมมิวนิสต์
   ในเดือน กันยายน ลิทัวเนียและเอสทัวเนีย ได้ประกาศแยกตัวจากสหภาพโซเวียต 25 ธันวาคม 1991 สาธารณรัฐ 11 แห่งสถาปนาเป็นเครือจักรภพรัฐอิสระ Commonwealth of Independent States ซึ่งถือเป็นการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเดิม
การรวมกลุ่มทางการเมืององค์การนาโต (Nato -- องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ North Altantic Treaty Organization)
จุดประสงค์เพื่อร่วมมือกันในการป้องกันยุโรปตะวันตก เผชิญหน้าโซเวียต
ที่ตั้งกรุงบลัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม
สมาชิกเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส กรีซ เยอรมัน ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส ตุรกี อังกฤษ สหรัฐอเมริกา
ก่อตั้ง4 เมษายน ค.ศ. 1949

องค์การสนธิสัญญาวอร์ซอร์
 (Warsaw Treaty Organization)
จุดประสงค์โซเวียตตั้งขึ้นเพื่อต่อต้าน Nato ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว
ที่ตั้งกรุงมอสโค สหภาพโซเวียต
สมาชิกบัลแกเรีย เชคโกสโลวาเกีย เยอรมันตะวันออก ฮังการี โปแลนด์ โรมาเนีย อัลบาเนีย โซเวียต
ก่อตั้งปี ค.ศ. 1599

องค์การซีไอเอ
 (Central Intelligency Ageney :C.I.A)
จุดประสงค์หาข่าวและข้อมูลทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ทหาร เพื่อรายงานประธานธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูง เป็นอิสระไม่ขึ้นต่องบประมาณแผ่นดิน
ที่ตั้งเมืองแลงเลย์ รัฐเวอร์จิเนีย
ก่อตั้งปี ค.ศ. 1947
การรวมกลุ่มทางสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (Organization Petroleum Exporting Countries: OPEC)
จุดประสงค์ควบคุมปริมาณ ราคาของน้ำมันโลก
สมาชิกปัจจุบันมี 13 ประเทศ ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับ คูเวต
เวเนซูเอลา แอลจีเรีย กาบอง อินโดนีเซี เอกวาดอร์ ลิเบีย กาตาร์ ไนจีเรีย
ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2502

สภาเพื่อความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน
 (Council for Mutual Economic Assistance โคมีคอน)
จุดประสงค์ส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีและอุตสหากรรม
สมาชิกบัลกาเรีย มองโกเรีย คิวบา ฮังการี เชคโกสโลวาเกีย เยอรมันตะวันออก โปแลนด์ โรมาเนีย สหภาพโซเวียต เวียดนาม แอลเบเนีย ยูโกสลาเวีย ฟินแลนด์
ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว

องค์การอาเซียน
 (Association of Southeast Asian Nations)
จุดประสงค์เพื่อความร่วมมือทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของสมาชิก
สมาชิกไทย มาเลเซีย ฟิลิปินส์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน เวียดนาม
ก่อตั้งปี. 1967

สหภาพยุโรป (EU)
จุดประสงค์เพื่อเป็นเขตการค้าเสรี เป็นสหภาพทางศุลกากร เศรษฐกิจและการเงิน
สมาชิกประเทศยุโรป 15 ประเทศ
ก่อตั้งปี ค.ศ. 1950 การก่อตั้ง EUทำให้ยุโรปเป็นกลุ่มที่มีพลังและการต่อรองสูง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง

องค์การร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งภาคพื้นเอเซียและแปซิฟิก
 (APEC)
จุดประสงค์ร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ
สมาชิกไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปินส์ บรูไน เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ แคนาดา เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ปาปัวนิวกินี ชิลี
ก่อตั้งปี. 1989 โดยออสเตรเลีย

ข้อตกลงจากการประชุมเอเซีย - ยุโรป
 (ASEM)
จุดประสงค์เชื่อมยุโรปและเอเซียในด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมือง
สมาชิกไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปินส์ เวียดนาม เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น กลุ่มสหภาพยุโรป 15 ประเทศ
ก่อตั้งค.ศ. 1996

กลุ่มประเทศผู้นำทางอุตสาหกรรมโลก (G-7)
จุดประสงค์เพื่อการรวมตัวของประเทศที่คล้ายคลึงและมีผลประโยชน์ร่วมกัน
สมาชิกญี่ปุ่น อเมริกา อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส อังกฤษ แคนาดา

องค์การส่วนภูมิภาคในตะวันออกกลาง
 (The Arab League สันนิบาตอาหรับ)
จุดประสงค์การรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การเมือง
สมาชิกแอลจีเรีย อิรัก จอร์แดน คูเวต เลบานอน โมร็อกโก ลิเบีย ซาอุดิอาระเบีย ซูดาน ซีเรีย ตูนีเซีย สหรัฐอาหรับ เยเมน
ก่อตั้งค.ศ. 1944
    ประชากรศึกษา คือ การศึกษาการกระจายตัว องค์ประกอบของประชาชนในชุมชนใดชุมชนหนึ่ง ซึ่งมีภาวะการเกิด ตาย และกายย้ายถิ่น
    ข้อมูลประชากรคือข้อมูลทั้งทางตัวเลขและทางคุณภาพ ของประชากร แบ่งเป็น1. แหล่งปฐมภูมิ คือ ข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมเอง หรือการทำสำมะโนประชากร
2. แหล่งทุติยภูมิ คือ ข้อมูลที่ผู้อื่นจัดทำไว้มาใช้ประโยชน์ อาจอยู่ในรูปลักษณะแผนภูมิ ปิระมิดประชากร   ซึ่งระบุเรื่องเพศและอายุ ดังนี้
1. แบบสามเหลี่ยมหน้าจั่วมีการเกิดและตายสูง อัตราการเพิ่มประชากรต่ำ
2. แบบเจดีย์มีการตายของทารกลดลง อัตราการเพิ่มประชากรสูง กลุ่มผู้เป็นภาระสูง เช่นพม่า บราซิล
3. แบบรวงผึ้งมีการเกิดและตายต่ำ ประชากรไม่แตกต่างกันนั้น มีจำนวนคนชราสูงกว่าแบบที่ 1และ2 เนื่องจากการแพทย์เจริญก้าวหน้า เป็นลักษณะของประเทศที่เจริญแล้ว
4. แบบระฆังมีฐานกว้างกว่าแบบที่ 3 เป็นสภาพของการเปลี่ยนแปลงประชากรที่จะนำไปสู่แบบที่ 3
5. แบบพระเกี้ยวเป็นสภาพที่มีการลดอัตราการเกิดได้รวดเร็ว มีอัตราการตายต่ำมาก่อนแล้ว เช่น ญี่ปุ่น

ศัพท์ที่ควรทราบ
ภาวะเจริญพันธุ์-- จำนวนบุตรที่เกิดจริงจากบุคคลหนึ่งหรือคนกลุ่มหนึ่ง เช่น สตรี อายุ 50 ปี มีบุตร 5 คน คือภาวะเจริญพันธุ์ของสตรีนั้น
การเจริญพันธุ์-- จำนวนบุตรที่เกิดจริง
อัตราเจริญพันธุ์ทั่วไป-- อัตราคนเกิดในปีหนึ่ง ต่อสตรีในวัยเจริญพันธุ์ ในไทยคือ 45 % (สตรีช่วง 15-49 ปี)
การเกิดมีชีพ-- ทารกที่มีชีวิตตอนคลอด
การเกิดไร้ชีพ-- การตายของทารกก่อนหรือรหว่างคลอดโดยตั้งครรภ์ 5 เดือนไปแล้ว ทารกตายขณะคลอด
ความสามารถมีบุตร-- เป็นความสามารถทางกายองชายและหญิง ที่จะมีบุตรได้ หญิงเริ่มที่ 15-50 ปี ผู้ชายคือ 11-14 ปี จนกระทั่งตราบใดที่ยังสามารถร่วมเพศได้
อัตราส่วนต่อเพศ-- อัตราส่วนประชากรชายหารด้วยประชากรเพศหญิง
ขนาดประชากร-- จำนวนประชากรในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนด
การกระจายตัวของประชากร-- การตั้งถิ่นฐานตามลักษณะภูมิศาสตร์ เพื่อการวางผังเมือง
ความหนาแน่นของประชากร-- จำนวนประชากรต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ที่มีประโยชน์
ระยะการเปลี่ยนแปลงประชากร
ระยะที่ 1 ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมโลก มีอัตราการเกิดและตายสูง อัตราการเพิ่มประชากรต่ำ
ระยะที่ 2 การปฏิวัติอุตสาหกรรมโลก   การแพทย์เจริญก้าวหน้า ทำให้การเกิดสูง การตายต่ำ อัตราการเพิ่มประชากรสูง
ระยะที่ 3 ช่วงที่สังคมเข้าสู่สมัยใหม่ การเกิด การตายต่ำ การเพิ่มประชากรต่ำ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตประชากรดีขึ้น
ปี พ.ศ. 2530 ประชากรโลกเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านคน เป็นชาวเอเซียร้อยละ 60แนวคิดของมัลธัส (ค.ศ. 1766-1834)
     มัลธัสเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวอังกฤษ ให้ความเห็นว่า อัตราการเพิ่มประชากรเป็นแบบเรขาคณิต (2,4,8, 16,...) แต่อัตราการเพิ่มของผลผลิตเป็นเลขคณิต (1,2,3,4,5,...) เขาจึงเสนอให้มีการควบคุมจำนวนประชากรโดยการป้องกันของธรรมชาติ โดยไม่ใช้เทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง
1. โดยการกระทำของมนุษย์เอง เช่น พฤติกรรมผิดทางเพศ
2. การควบคุมแบบ Postitive Check เช่น โรคระบาด สงคราม การยืดเวลาสมรสออกไป
      นโยบายประชากร คือ มาตรการ โครงการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องขนาด การเพิ่ม การกระจายลักษณะประชากร โดยมุ่งให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและประชากรศาสตร์ ในประเทศไทยได้มีการกำหนดนโยบายประชากรปี พ.ศ. 2515 ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 3

1 ความคิดเห็น: